ครีมกันแดด
ครีมกันแดด (Sunscreen) คือ สารที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสีอัลตราไวโอเลตหรือรังสียูวี (Ultraviolet Radiation: UV) โดยจะช่วยให้ผิวไม่ถูกแสงแดด ทำลายจนไหม้ หรือเกิดจุดด่างดำต่าง ๆ ที่ผิว รวมทั้งลดโอกาสเสี่ยง ที่จะเป็นมะเร็งผิวหนัง ส่วนผสมที่อยู่ในครีมป้องกันแสงแดดนั้น จะช่วยปกป้องผิวด้วยวิธีต่าง ๆ ทั้งดูดซับรังสีอัลตราไวโอเลต ปกป้องชั้นผิวที่อยู่ลึก หรือสะท้อนรังสียูวีกลับออกไป ทั้งนี้ ครีมป้องกันแสงแดด ก็มีให้เลือกใช้หลากหลายรูปแบบ ได้แก่ โลชั่น ครีม ขี้ผึ้ง หรือสเปรย์ เป็นต้น
เลือกใช้อย่างไรให้ปกป้องผิวได้ดี และมีประสิทธิภาพมากที่สุด
ประเภทของครีมป้องกันแสงแดด
- ประเภทตามกลไกการป้องกันแสงแดด
- สารกันแดดแบบเคมี ครีมประเภทนี้ จะปกป้องผิวจากแสงแดด โดยการใช้สารเคมี ที่มีคุณสมบัติดูดซับแสงแดด ที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีบนผิวหนังของเรา สารกันแดดชนิดนี้ จะมีประสิทธิภาพต่างกันไป ตามชนิดของสารกรองแสง ที่ช่วยป้องกันรังสียูวีเอ และรังสียูวีบี ทั้งนี้ สารกันแดดแบบเคมี มักจะไม่คงทน รวมทั้งอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวได้
- สารกันแดดแบบกายภาพ ครีมป้องกันแสงแดด ที่ผสมสารกันแดดแบบกายภาพ จะปกป้องผิวจากแสงแดด โดยใช้สารเคมีที่มีคุณสมบัติ ที่สะท้อนรังสีจากแสงแดดออกไป สารกันแดดชนิดนี้ จะป้องกันได้ทั้งรังสียูวีเอและรังสียูวีบี ไม่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาเคมีกับผิวหนัง แต่อย่างไรก็ตาม สารกันแดดแบบกายภาพ จะมีเนื้อครีมที่ค่อนข้างข้น และเหนียวเหนอะหนะ
2. ประเภทตามบริเวณที่ใช้ทา
- แบบครีม เหมาะจะใช้ทาบริเวณใบหน้า และผู้ที่มีผิวที่แห้ง
- แบบเจล เหมาะสำหรับทาบริเวณที่มีขึ้นขน เช่น หนังศีรษะ หรือช่วงหน้าอกของผู้ชาย
- แบบแท่ง อาจผสมสารกันแดดร่วมด้วย ซึ่งเหมาะจะใช้ทาบริเวณที่อยู่รอบดวงตา
- แบบสเปรย์ สารกันแดดในรูปแบบสเปรย์นั้น อาจนำมาใช้ทากันแดดให้แก่เด็ก เนื่องจากทาได้ง่าย โดยควรทาสารกันแดด เพื่อปกป้องผิวในปริมาณที่เพียงพอ พอเหมาะ และไม่ควรสูดดม หรือฉีดสเปรย์ใกล้วัตถุที่ไวไฟ หรือใช้ขณะที่สูบบุหรี่
วิธีเลือกซื้อครีมป้องกันแสงแดดอย่างถูกต้อง
- เลือกครีมป้องกันแสงแดด ที่ปกป้องผิวได้อย่างครอบคลุม ซึ่งจะช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีเอ และรังสียูวีบี เนื่องจากครีมกัน แดดทุกตัวนั้น จะช่วยป้องกันรังสียูวีบี ซึ่งเป็นรังสีที่ทำให้ผิวไหม้ และอาจเป็นมะเร็งผิวหนัง ครีม กันแดดหรือผลิตภัณฑ์ป้องกันแดดอื่น ๆ ที่ป้องกัน ทั้งรังสียูวีเอและยูวีบี จะได้รับการระบุอยู่บนฉลากผลิตภัณฑ์ว่า Broad-Spectrum ส่วนครีมป้องกันแสงแดด หรือผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดด ที่ไม่ได้รับการระบุดังกล่าว จะป้องกันผิวไหม้ แต่ว่าจะไม่ครอบคลุมการป้องกันมะเร็งผิวหนัง และผิวแก่ก่อนวัย
- ควรเลือกครีมป้องกันแสงแดดที่มีค่า SPF 30 หรือมากกว่านั้น โดยค่า SPF จะช่วยบอกระดับการป้องกันผิวจากรังสียูวีบี ครีมป้องกันแสงแดดที่มีค่าดังกล่าวสูง ก็จะปกป้องผิวจากแสงแดดได้มาก โดยครีมป้องกันแสงแดดที่มีค่า SPF 15 จะกรองรังสียูวีบีได้ร้อยละ 93 ครีมป้องกันแสงแดดที่มีค่า 30 จะกรองได้ร้อยละ 97 และครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 กรองได้ร้อยละ 98 ส่วนครีมป้องกันแสงแดดที่มีค่า SPFต่ำกว่า 15 สามารถป้องกันผิวไหม้ได้ แต่ไม่ป้องกันมะเร็งผิวหนัง หรือแก่กว่าวัย
- เลือกครีมป้องกันแสงแดดกันน้ำได้ (Water Resistant) โดยครีมชนิดนี้จะช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด ระหว่างที่ว่ายน้ำหรือเหงื่อออกได้นานประมาณ 40-80 นาที ผู้ใช้ควรทาครีมซ้ำอย่างน้อยทุก 2 ชั่วโมง หรือมากกว่านั้น
วิธีใช้ครีมป้องกันแสงแดดอย่างถูกต้อง
- ควรทาครีม ก่อนออกแดดประมาณ 15-30 นาที
- ควรลงครีมก่อนแต่งหน้า โดยใช้ครีมในปริมาณ 1 ออนซ์ หรือ 2 ช้อนโต๊ะ ทาให้ทั่วตัว ควรทาให้เนื้อครีมซึมซาบสู่ผิวทั้งหมด
- ควรทาครีมที่หู เท้า ด้านหลังขา หรือบริเวณที่อาจลืมทาได้ง่าย
- ควรทาลิปบาล์มที่มีค่าป้องกันแสงแดด 30 เพื่อปกป้องริมฝีปากจากรังสียูวีด้วย
- ควรทากันแดดชนิดกันน้ำ ทุกครั้งก่อนว่ายน้ำ และควรทาซ้ำทุก ๆ 2 ชั่วโมง หรือหลังจากว่ายน้ำ หรือมีเหงื่อออก
- ไม่ใช้ครีมที่หมดอายุ เนื่องจากจะเสื่อมประสิทธิภาพ รวมทั้งไม่ใช้ครีมที่ซื้อทิ้งไว้ 3 ปีหรือนานกว่านั้น
- ไม่ควรทาครีมป้องกันแสงแดดให้แก่เด็กที่อายุต่ำกว่า 6 เดือน โดยดูแลเด็กไม่ให้โดนแสงแดดมากเกินไป และควรสวมเสื้อผ้าที่ปกป้องผิวของเด็กจากแสงแดดได้