เที่ยวจอร์เจีย
เที่ยวจอร์เจีย ประเทศที่ค่าครองชีพไม่สูง จอร์เจีย ไปเดือนไหนดี วางแผนก่อนเดินทาง ไม่พลาดทุกไฮไลท์ ถ้าพูดถึงประเทศที่เป็นกระแส ในการท่องเที่ยวโด่งดัง รวมทั้งบริษัททัวร์ ต่างก็แนะนำว่าต้องไปให้ได้ คงหนีไม่พ้น จอร์เจีย (Georgia) ประเทศที่หลายคนอาจยังไม่คุ้นหู ซึ่งข้อดีของประเทศนี้ คือนักท่องเที่ยวชาวไทยอย่างเรา สามารถไปเที่ยวประเทศจอร์เจียได้ โดยไม่ต้องขอวีซ่า แถมอยู่ได้นานถึง 365 วันเลยทีเดียว ซึ่งจากภาพหรือการรีวิวต่าง ๆ เราก็จะได้เห็นธรรมชาติสุดอลังการ รวมถึงวัฒนธรรม และสถาปัตยกรรม อันสวยงามแปลกตา ชวนให้อยากรู้จัก และวันนี้ เราก็จะชวนมาเก็บข้อมูลว่า จะไป เที่ยวประเทศจอร์เจียเดือนไหนดี รวมถึงที่เที่ยวไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด ใครกำลังวางแผนเที่ยวอยู่
ประเทศที่ค่าครองชีพไม่สูง จอร์เจีย ไปเดือนไหนดี วางแผนก่อนเดินทาง ไม่พลาดทุกไฮไลท์
รู้จักประเทศจอร์เจีย
เริ่มต้น เรามาทำความรู้จัก กับภูมิศาสตร์ทั่วไปของประเทศจอร์เจียกันคร่าว ๆ ก่อน เพื่อจะได้รู้ว่าควรไป เที่ยวประเทศจอร์เจียเดือนไหนดี จอร์เจียนั้นได้รับการขนานนามว่า “ประเทศสองทวีป” ด้วยความที่ อยู่สุดเขตแดนของ ทวีปเอเชีย และติดกับทวีปยุโรปมาก ดังนั้น ประเทศนี้ จึงมีการผสมผสาน วัฒนธรรม และสถาปัตยกรรมของสองทวีปเอาไว้ด้วยกัน ซึ่งบรรยากาศบ้านเมืองส่วนใหญ่ จะออกไปทางยุโรปมากกว่า
จอร์เจียนั้น มีขอบเขตของประเทศแต่ละด้านติดกับ ทะเลดำ (Black Sea), ตุรกี, อาร์เมเนีย, อาเซอร์ไบจาน และรัสเซีย ทำให้ที่นี่ มีสภาพอากาศที่มีความหลากหลาย โดยแบ่งภูมิอากาศเป็น 2 โซนหลัก คือ ฝั่งตะวันตกที่อยู่ติดกับทะเลดำ และทางฝั่งตะวันออกที่ติดกับประเทศในแถบยุโรป ซึ่งโดยรวมแล้ว ประเทศจอร์เจียมีเทือกเขาคอเคซัส (Caucasus Mountains) และทะเลดำ เป็นตัวแปรหลักของสภาพอากาศ โดยฝั่งทางตะวันตก อากาศจะอบอุ่นกว่าทางด้านตะวันออก แต่ก็สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เพราะอากาศในแต่ละเดือนนั้น จะมีลักษณะใกล้เคียงกัน
สำหรับการท่องเที่ยว เมืองหลัก ๆ ของประเทศที่นักท่องเที่ยวนิยมไป ยกอย่างเช่น ทบิลิซิ, เมืองหลวงของประเทศ, เมืองมิชเคทา, เมืองกูเดาริ, เมืองบาทูมิ, เมืองบอร์โจมิ, เมืองอัพลิสสิค, และเมืองซิกนาลี ซึ่งแต่ละที่นั้น ก็มีความน่าสนใจและสวยงามไม่แพ้กัน
เที่ยวจอร์เจียเดือนไหนดี
1. ฤดูใบไม้ผลิ : มีนาคม – พฤษภาคม
อุณหภูมิเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 10-24 องศาเซลเซียส ฤดูใบไม้ผลิจะเป็นช่วงที่ดอกไม้ ต้นไม้ในป่าเขา ต่างก็ผลิดอกบานสะพรั่ง เหมาะกับการท่องเที่ยวมาก และเป็นช่วงของ เทศกาลอีสเตอร์ แนะนำการท่องเที่ยวในช่วงนี้ ให้ไปล่องแพชมแม่น้ำ Aragvi ที่สวยที่สุดทางตอนเหนือของเมืองบิลิซี หรือจะไปชมความสวยงามของ วิหารสเวติสโคเวลี, โบสถ์จวารี หรือโบสถ์ไม้กางเขน ที่อยู่บนเนินเขาสุดเท่ ในเมืองมิชเคทา ก็แสนจะน่าประทับใจ
2. ฤดูร้อน : มิถุนายน – สิงหาคม
อุณหภูมิเฉลี่ย จะอยู่ที่ประมาณ 16-31 องศาเซลเซียส ช่วงฤดูร้อนของจอร์เจียนั้น อากาศค่อนข้างร้อน แต่ก็ถือว่าสบาย ๆ สำหรับคนไทยอย่างเรานั้น ช่วงนี้เหมาะสำหรับการไปเที่ยวชมความเขียวขจี ของธรรมชาติทั้งภูเขา ทุ่งดอกไม้ ทุ่งหญ้า เดินป่า หรือจะแวะพักผ่อนสบาย ๆ ในบรรยากาศชายฝั่งทะเล ที่แสนคึกคัก ทั้งกลางวันและกลางคืน ของเมืองทบิลิซิ หรือเมืองบาทูมี ก็น่าสนุกไม่แพ้กัน
3. ฤดูใบไม้ร่วง : กันยายน – พฤศจิกายน
อุณหภูมิเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 4-20 องศาเซลเซียส ถ้าจะให้แนะนำว่าควรมา เที่ยวประเทศจอร์เจียเดือนไหนดี ฤดูใบไม้ร่วงก็เป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่เหมาะกับการท่องเที่ยวมาก ๆ เพราะอากาศเย็นสบายกำลังดี บรรยากาศก็สวยงาม ด้วยใบไม้เปลี่ยนสีตามสถานที่ต่าง ๆ ทั่วเมือง เหมาะกับการเพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพของภูเขา ต้นไม้ รวมทั้ง มีโอกาสเข้าร่วม เทศกาลทบิลิโซบา ซึ่งเป็นเทศกาลเฉลิมฉลองการเก็บเกี่ยว ที่คุณจะได้เต็มอิ่มกับการเต้นรำ ปาร์ตี้สนุก ๆ ได้ชิมอาหาร และไวน์รสเลิศตลอดงานเทศกาล ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนตุลาคมของทุก ๆ ปี
4. ฤดูหนาว : ธันวาคม – กุมภาพันธ์
อุณหภูมิเฉลี่ยจะอยู่ที่ -3 ถึง 8 องศาเซลเซียส เป็นช่วงที่หนาวสุด ๆ ของประเทศ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการไป ทัวร์ประเทศจอร์เจีย เพื่อชมอลังการของ เทือกเขาคอเคซัส ที่ปกคลุมด้วยทะเลหิมะ หรือจะไปเล่นสกี ฮอกกี้ เลื่อนหิมะ และสโนว์บอร์ดสุดมันส์ ที่เมืองสกีรีสอร์ทขึ้นชื่อของประเทศอย่าง เมืองกูเดาริ และเมืองบอร์โจมิ